สืบเนื่องจากการที่ศาลสั่
“บทลงโทษที่รุนแรงต่ออองซานซูจี ตามข้อหาที่กุขึ้นมา เป็นตัวอย่างล่าสุ ดของเจตจำนงของกองทัพที่จะขจั ดการต่อต้านใด ๆ และปราบปรามเสรีภาพในเมียนมา การตัดสินของศาลผ่านกระบวนการที่ ขาดความน่าเชื่อถือและทุจริต เป็นส่วนหนึ่งของแบบแผนที่เลวร้ ายของการลงโทษโดยพลการ ซึ่งที่ผ่านมาทำให้มีผู้เสียชี วิตแล้วกว่า 1,300 คน และถูกจับกุมหลายพันคน นับแต่การทำรัฐประหารเมื่อเดื อนกุมภาพันธ์
“ยังคงมีผู้ถูกควบคุมตั วจำนวนมากซึ่งไม่เป็นที่รู้จั กอย่างกว้างขวางแบบอองซานซูจี มีความเสี่ยงอย่างมากว่ าพวกเขาจะถูกคุมขังเป็ นเวลาหลายปี จากการใช้สิทธิมนุษยชนของตนอย่ างสงบ เราต้องไม่ลืมพวกเขาและไม่ปล่ อยให้พวกเขาประสบชะตากรรมเช่นนั้ น
“ในขณะที่ความรุนแรงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีผู้พลัดถิ่นฐานหลายพั นคน และทำให้เกิดวิกฤตด้านมนุ ษยธรรมท่ามกลางการระบาดใหญ่อย่ างต่อเนื่อง สถานการณ์ในเมียนมาทุกวันนี้จึ งเป็นเรื่องน่าตกใจอย่างยิ่ง หากนานาชาติไม่หาทางแก้ไขอย่ างเด็ดขาด เป็นเอกภาพ และรวดเร็ว สถานการณ์เช่นนี้ สามารถและอาจจะเลวร้ายมากขึ้น
“ประชาคมระหว่างประเทศต้องเพิ่ มการดำเนินงานเพื่อคุ้ มครองพลเรือน และกดดันให้นำตัวผู้กระทำผิ ดมารับโทษจากการละเมิดอย่างรุ นแรง และประกันให้มีการดำเนินงานช่ วยเหลือด้านมนุษยธรรมและสุขภาพ โดยถือเป็นความเร่งด่วนสูงสุด ระบบสาธารณสุขของประเทศกำลังล่ มสลาย เศรษฐกิจใกล้พังทะลาย ในขณะที่การขาดแคลนอาหารกำลั งเริ่มขึ้น โลกไม่สามารถนั่งเฉยและปล่อยให้ เป็นการตัดสินใจของอาเซียน รัฐต่าง ๆ ต้องดำเนินการทันที เพื่อประกันให้การยุติการสั งหารโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การควบคุมตัวโดยพลการ การทรมาน และการละเมิดที่โหดร้ายอย่างอื่ น และให้ยุติแบบแผนการลอยนวลพ้นผิ ดที่เกิดขึ้นมาหลายทศวรรษ และเป็นเหตุให้เกิดสถานการณ์ที่ เป็นอยู่ในปัจจุบัน
“เป็นเรื่องน่าละอายที่อาเซี ยนยังไม่ได้ดำเนินการอย่างเต็ มที่ตามฉันทามติฉุกเฉินของตน หลังมีการบรรลุข้อตกลงดังกล่ าวกว่าครึ่งปีที่แล้ว นอกจากการห้ามไม่ให้นายทหารระดั บสูงอย่างมินอ่องหล่ายเข้าร่ วมการประชุมเพียงไม่กี่ครั้ง อาเซียนยังคงแสดงท่าทีอ่อนแออย่ างน่าตกใจ ในขณะที่กองทัพเมียนมาก็ยั งปราบปรามผู้แสดงความเห็นต่ างอย่างสงบ เร่งการทำลายล้าง และกวาดล้างเสรี ภาพในการแสดงออก”
อ่านข่าวฉบับเต็มได้ที่นี่ http s://www.amnesty.or.th/latest/ news/myanmar061221/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น