“สุชาติ” รมว.แรงงาน เปิดเวทีประชุมชี้แจงและพิธีลงนามสัญญาจ้างให้บริการทางการแพทย์ ประจำปี 2565 - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2564

“สุชาติ” รมว.แรงงาน เปิดเวทีประชุมชี้แจงและพิธีลงนามสัญญาจ้างให้บริการทางการแพทย์ ประจำปี 2565


เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ณ ห้องประชุมจอมพล ป.พิบูลสงคราม กระทรวงแรงงาน กรุงเทพฯ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงาน “การประชุมชี้แจงและลงนามสัญญาจ้างให้บริการทางการแพทย์ ประจำปี 2565” โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุเทพ ชิตยวงศ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วย ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม ผู้บริหารสถานพยาบาล และสื่อมวลชน ให้การต้อนรับ


นายสุชาติ ชมกลิ่น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า รัฐบาลภายใต้ การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญในการดูแลพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ให้ได้รับความคุ้มครองได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียมกัน โดยมอบหมายให้ผมนำนโยบาย “รวมไทยสร้างชาติ” และมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะผลักดันนโยบายด้านแรงงานต่างๆ ทั้งการให้แรงงานอิสระเข้าถึงระบบหลักประกันทางสังคม เพื่อสร้างความเป็นธรรมและเท่าเทียมแก่แรงงานทุกภาคส่วน การจัดการและพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์ ของสำนักงานประกันสังคม เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับบริการที่ดี มีคุณภาพ ตามมาตรฐานการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคให้ผู้ประกันตน 

พร้อมบริการทางการแพทย์มีระบบการบริหารจัดการที่เป็นเลิศ (Governance Excellence) ซึ่งประกอบไปด้วยระบบข้อมูลด้านสารสนเทศ ด้านสุขภาพ ความมั่งคง ด้านยาและเวชภัณฑ์ และการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้ผู้ประกันตนมีสุขภาพที่ดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยังกล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน สำนักงานประกันประสังคมดำเนินการเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านตรวจรักษาและจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ในกรณีโควิด - 19 มากกว่า 12,000 ล้านบาท แม้ว่าสถานการณ์ความรุนแรงของผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตจะลดน้อยลง และในอนาคตโรคโควิด–19 จะเป็นโรคประจำถิ่น แต่ยาที่ใช้เพื่อการรักษายังคงต้องพัฒนาต่อไป มาตรฐาน การรักษายังคงไม่หยุดนิ่ง สถานพยาบาลต้องเตรียมความพร้อม รองรับสถานการณ์ดังกล่าว และสำนักงานประกันสังคมยังคงต้องปรับปรุงสิทธิประโยชน์เพื่อการรักษา ให้เหมาะสมต่อสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลง และประโยชน์ของผู้ประกันตนเป็นสำคัญซึ่งในทุกๆ ปี สำนักงานประกันสังคม ได้คัดเลือกสถานพยาบาลเพื่อการดูแลรักษาผู้ประกันตนให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ 


ซึ่งมาตรฐานต่างๆ เหล่านี้ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในสถานพยาบาลประกันสังคมให้กับผู้ประกันตนในทางหนึ่งได้พัฒนาสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสถานพยาบาล และผู้ประกันตน ในวันนี้ ตนต้องขอขอบคุณผู้แทนสถานพยาบาล ผู้แทนหน่วยงาน ผู้ที่เกี่ยวข้อง มาร่วมประชุมชี้แจงและลงนามสัญญาจ้างให้บริการทางการแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 ประจำปี 2565 ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานพยาบาลทุกแห่งจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างหลักประกันความมั่นคง ในการดำรงชีวิตให้กับแรงงานทุกคนตลอดไป

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวถึงจัดงาน “การประชุมชี้แจง และพิธีลงนามสัญญาจ้างให้บริการทางการแพทย์ ประจำปี 2565” ในครั้งนี้ว่า เพื่อชี้แจงให้สถานพยาบาลเอกชนในโครงการประกันสังคม ประจำปี 2565 ทั้ง 89 แห่ง ให้รับทราบแนวทางการให้บริการแก่ผู้ประกันตนอย่างเป็นเลิศ พร้อมรับทราบแนวทางการให้บริการแก่ผู้ประกันตนอย่างเป็นเลิศ และรับทราบนโยบายของกระทรวงแรงงานในการดูแลแรงงานทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันให้บริการแก่ผู้ประกันตนมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน รวมทั้งลงนามสัญญาจ้างให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตน ประจำปี 2565 ระหว่างสำนักงานประกันสังคม กับสถานพยาบาลเอกชน มีผู้เข้าร่วมการประชุม จำนวน 350 คน ประกอบด้วย ผู้แทนจากสถานพยาบาลเอกชนในโครงการประกันสังคมในปี 2565 จำนวน 89 แห่ง ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน/ผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม/แขกผู้มีเกียรติ/สื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สำหรับในปี 2565 สำนักงานประกันสังคม จะมีสถานพยาบาลที่ดูแลผู้ประกันตน 254 แห่ง แบ่งเป็นภาครัฐ 165 แห่ง ภาคเอกชน 89 แห่ง สถานพยาบาลเครือข่ายทั้งรัฐและเอกชนประมาณ 2,243 แห่ง ค่าบริการทางการแพทย์แบบเหมาจ่าย และค่าบริการทางการแพทย์นอกเหนือเหมาจ่ายเพื่อดูแลด้านการรักษาพยาบาลผู้ประกันตน วงเงินเฉลี่ย 3,959 บาท/คน/ปี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น