ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตรวจเยี่ยมการฝึกอบรมยกระดับฝีมือสาขาการจัดการด้านอาหารและโภชนาการบนเรือ รุ่นที่ 1/2564 ณ อาคารวิทยาลัยการแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรุงเทพมหานคร โดยเปิดเผยหลังจากการตรวจเยี่ยมว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายส่งเสริมให้กำลังแรงงานไทยปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎหมายไทยและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดจุดอ่อนหรือข้อด้อยที่จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน และยังจะแสดงถึงศักยภาพแรงงานไทยได้อย่างเต็มที่ เป็นการสร้างโอกาสและรักษาตำแหน่งงานให้คนไทย
โดยเฉพาะตำแหน่งงานในตลาดต่างประเทศ ซึ่งธุรกิจเดินเรือทะเลถือเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศจำนวนมาก อย่างไรก็ตามการทำธุรกิจเดินเรือทะเลก็ต้องปฎิบัติตามกฎหมายหรืออนุสัญญาระหว่างประเทศด้วย จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ธุรกิจเดินเรือทะเลหยุดออกเรือ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้นมาก มีสัญญาณบวกทั้งนโยบายการเปิดประเทศและตัวเลขของผู้ได้รับวัคซีน ภาคธุรกิจต่างเตรียมขับเคลื่อนเดินหน้า หลายบริษัทขาดแคลนคนครัวบนเรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
กระทรวงแรงงานจึงมอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานในฐานะหน่วยงานตามกฎหมายพ.ร.บ.แรงงานทะเล ฝึกอบรมหลักสูตรสาขาการจัดการด้านอาหารและโภชนาการบนเรือ เพื่อส่งเสริมให้คนประจำเรือในตำแหน่งคนครัวบนเรือ ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล ค.ศ 2006 ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) และพ.ร.บ.แรงงานทะเล พ.ศ.2558 ที่กำหนดให้คนครัวบนเรือต้องผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรนี้จากหน่วยงานที่ได้การรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งผู้ผ่านการฝึกอบรมสามารถประกอบอาชีพบนเรือเดินทะเลและเรือขนส่งระหว่างประเทศได้ โดยตำแหน่งคนครัวบนเรือเป็นที่ต้องการเรือเดินทะเล เช่น เรือสำราญ เรือรบ เรือประมง เรือสำรวจทางอุทกศาสตร์ เรือขุดร่องน้ำ และเรือขนส่งระหว่างประเทศ
สำหรับการฝึกอบรมในครั้งนี้เริ่มต้นจัดฝึกเป็นที่แรกก่อนขยายฝึกทั่วประเทศ ดำเนินการโดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 13 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็น 1 ใน15 หน่วยงานกรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่ได้รับมอบหมายให้เป็นสถานฝึกอบรมคนครัวบนเรือ มีแผนการฝึกอบรม 6 รุ่น รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 1 ซึ่งมีสถานประกอบกิจการส่งพนักงานเข้ารับการอบรมจำนวน 23 คน เช่น บริษัท จุฑานาวี จำกัด (มหาชน) บริษัท ทิปโก้ จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรานส์ โอเชี่ยน ซัพพลาย (1992) จำกัด บริษัท สยามมงคลเดินเรือ จำกัด เป็นต้น หัวข้อการฝึกอบรมได้แก่ ความรู้พื้นฐานของคนครัวบนเรือ ความปลอดภัยและสุขภาพในการปฏิบัติงาน สุขลักษณะส่วนบุคคลและอาหาร ทักษะการประกอบอาหาร การป้องกันโรคอาหารเป็นพิษ การจัดการและการควบคุมดูแลครัว การจัดการของเสียในครัว รวมถึงมุมมองด้านศาสนาและวัฒนธรรม ใช้ระยะเวลาการฝึกอบรม 42 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 22-27 พฤศจิกายน 2564
หลักสูตรการจัดการด้านอาหารและโภชนาการบนเรือนอกจะช่วยให้แรงงานทำงานถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถ เสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีในการปฏิบัติงานบนเรือเดินทะเล และใช้อุปกรณ์เครื่องมือในการปฏิบัติงานและบำรุงรักษาได้อย่างถูกต้อง รวมถึงมีทัศนคติที่ดีต่ออาชีพ ในการทำงาน จึงมีส่วนสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจเดินเรือของไทย และเศรษฐกิจในภาพรวมด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น