ด่วนที่สุด! ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศให้ "ธรรมนัส-นฤมล" พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี

การเมืองร้อนฉ่า แซงคิวยอดโควิดด้วย ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้ "ธรรมนัส-นฤมล" พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี

เมื่อวันนี้ 9 ก.ย. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2562 แล้ว และแต่งตั้งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน ตามประกาศลงวันที่ 10 กรกฎาคม พุทธศักราช 2562 และประกาศครั้งสุดท้าย ลงวันที่ 22 มีนาคม พุทธศักราช 2564 นั้น

บัดนี้นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลว่า สมควรให้รัฐมนตรีบางคนพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์แก่ราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 171 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีดังต่อไปนี้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี

1. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

2. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 8 กันยายน พุทธศักราช 2564 เป็นปีที่ 6 ในรัชกาลปัจจุบัน

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นายกรัฐมนตรี

ขณะในวันเดียวกัน เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อาคารสัปปายะสภาสถาน ที่ทำการรัฐสภา บริเวณแยกเกียกกาย ว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แถลงข่าว เปิดเผยถึงการตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่ามกลางกระแสข่าวปัญหาความไม่ลงรอยภายในพรรคพลังประชารัฐ และขัดแย้งกับนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ให้เหตุผลว่า รู้สึกไม่สบายใจในการทำงาน จึงตัดสินใจขอกลับไปทำงานที่ จ.พะเยา บ้านเกิด รวมทั้งเป็นการตัดสินใจตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ย.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ตึกสันติไมตรี หลังนอก ซึ่งเป็นการประชุมแบบเผชิญหน้า เห็นตัวเป็น ๆ หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ ต้องกักตัวและทำงานที่บ้านพัก (work from home) ในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) หลังจากไปเปิดงานภูเก็ต แซนด์บอกซ์ ที่จังหวัดภูเก็ต และมีผู้ร่วมงานติดเชื้อโควิด 19 ซึ่งได้ถ่ายภาพเซลฟี่คู่กับพล.อ.ประยุทธ์ และเป็นการประชุมแบบเต็มคณะครั้งแรก ที่ไม่ใช่การประชุมผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์

นอกจากนี้การประชุมครม.ครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกและทันที่หลังจากจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งผลการลงมติพล.อ.ประยุทธ์ได้คะแนนไม่ไว้วางใจสูงสุด 208 คะแนน และได้คะแนนไว้วางใจ รองอับดับสุดท้าย 264 คะแนน ท่ามกลางกระแสข่าวความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่มีความเคลื่อนไหวของแกนนำพรรคโหวตไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์

โดยพล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวก่อนการประชุมขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านไปได้ด้วยความเรียบร้อยเพื่อขับเคลื่อนนโยบายไปด้วยกัน โดยมีตนเองยังอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ปรากฏว่านายกรัฐมนตรี ตั้งใจเดินผ่านที่นั่งของรัฐมนตรี ซึ่งมีนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่กำลังพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

โดยเมื่อทั้งสองเห็น พล.อ.ประยุทธ์ เดินมา จึงยกมือไหว้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ รับไหว้นายสาธิต แต่เดินผ่าน ร.อ.ธรรมนัส ไปไม่มีแม้แต่หันมามอง ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส มีสีหน้าเจื่อนๆ ต่อมา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินผ่านบริเวณนั้นเช่นกัน โดย พล.อ.อนุพงษ์ ทักทายพูดคุยกับนายสาธิต ก่อนจะหันมาทาง ร.อ.ธรรมนัส ที่ยกมือไหว้ ซึ่งพล.อ.อนุพงษ์ มีสีหน้านิ่งเฉย ก่อนใช้มือขวาแตะสัมผัสปลายมือของ ร.อ.ธรรมนัส เท่านั้น ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พยายามใช้มือทั้งสองจับมือของ พล.อ.อนุพงษ์ แต่พล.อ.อนุพงษ์ ไม่ได้พูดคุยใดๆ กับ ร.อ.ธรรมนัส

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีกระแสข่าว ร.อ.ธรรมนัส เป็นแกนนำเคลื่อนไหวโหวตคว่ำ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนที่จะมีการนัดกัน ระหว่าง นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ ร.อ.ธรรมนัส นัดเคลียร์ใจกันที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ