เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวง พม. ครั้งที่ 6/2567 ประจำเดือนมิถุนายน 2567 ว่า ตนแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าได้ลงนามแต่งตั้ง “คณะทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการ
ตามกฎหมายในภารกิจกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์”
เพื่อเป็นกลไกในการสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ให้มีประสิทธิภาพ ลดแรงกดดันและผลกระทบที่เกิดขึ้น ตลอดจนเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิผลและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน โดยคณะทำงานชุดนี้ มีหน้าที่และอำนาจในการให้คำแนะนำ คำปรึกษา ข้อเสนอ และความเห็นทางกฎหมายแก่หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวง พม. เกี่ยวกับการดำเนินการตามกฎหมายในภารกิจกระทรวง พม. ประสานหน่วยงานและเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อให้ข้อเสนอแนะในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการตามกฎหมาย รายงานผลการดำเนินงานให้ปลัดกระทรวง พม.และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ทราบ
อีกทั้งปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย คณะทำงานชุดนี้ประกอบด้วย รองปลัดกระทรวง พม. ที่กำกับดูแลกองกฎหมายสำนักงานปลัดกระทรวง พม. เป็นประธานคณะทำงาน และที่ปรึกษาด้านกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวง พม. เป็นรองประธานคณะทำงานฯ โดยมี นายนิกร จำนง ประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. นายสันติ กีระนันทน์ เลขานุการคณะที่ปรึกษาฯ นายเพิ่มสิน วิชิตนาค อธิบดีอัยการ สำนักงานยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นที่ปรึกษาคณะทำงานฯ
นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ คณะทำงานชุดนี้ ประกอบด้วย รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ที่ได้รับมอบหมาย รองอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ที่ได้รับมอบหมาย รองอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ที่ได้รับมอบหมาย รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ที่ได้รับมอบหมาย รองอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ที่ได้รับมอบหมาย รองผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ ที่ได้รับมอบหมาย รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ที่ได้รับมอบหมาย ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมายของกรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมกิจการผู้สูงอายุ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว หัวหน้ากลุ่มกฎหมาย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ การเคหะแห่งชาติ ผู้จัดการส่วนนิติการ สำนักงานธนานุเคราะห์ หัวหน้างานนิติการ สำนักผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวง พม. เป็นคณะทำงานและเลขานุการ อีกทั้ง ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิ กองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวง พม. เป็นคณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ เจ้าหน้าที่กองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวง พม. ที่ได้รับมอบหมาย จำนวน 2 คน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
นายนิกร กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ตั้งคณะทำงานด้านกฎหมายขึ้นมาแล้ว เพื่อเสริมประสิทธิภาพทุกภารกิจของทุกกรม ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. ที่ต้องใช้นักกฎหมายมาร่วมกันระดมความคิดเห็น วางแนวทางการดำเนินการเป็นกรณีๆ อย่างไรก็ตาม ทางประธานคณะทำงานกฎหมายชุดนี้ เตรียมเชิญประชุมหารือเป็นการด่วน เพื่อเสริมประสิทธิภาพ กรณีกรมกิจการเด็กและเยาวชน มอบหมายให้ทีม พม.สุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงและประเมินสภาวะของเด็กชาย 8 ขวบ และครอบครัว แต่เนื่องจากครอบครัวยังไม่พร้อม กรมกิจการเด็กและเยาวชน จึงมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ยื่นคำร้องขอต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี กรณีไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อให้ออกคำสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก ใน 2 ประเด็น คือ 1. ยุติการใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์ 2. ให้ผู้ปกครองร่วมมือในการกำหนดแผนและวิธีการในการเลี้ยงดูเด็กร่วมกับกระทรวง พม. โดยได้ยื่นเรื่องต่อศาลฯ กรณีไต่สวนฉุกเฉินครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ซึ่งศาลฯ ยกคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉิน และให้เป็นการไต่สวนปกติในวันที่ 17 มิถุนายน 2567#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธศิลปอาชา #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #เด็กชายเชื่อมจิต
นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ คณะทำงานชุดนี้ ประกอบด้วย รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ที่ได้รับมอบหมาย รองอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ที่ได้รับมอบหมาย รองอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ที่ได้รับมอบหมาย รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ที่ได้รับมอบหมาย รองอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ที่ได้รับมอบหมาย รองผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ ที่ได้รับมอบหมาย รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ที่ได้รับมอบหมาย ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมายของกรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมกิจการผู้สูงอายุ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว หัวหน้ากลุ่มกฎหมาย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ การเคหะแห่งชาติ ผู้จัดการส่วนนิติการ สำนักงานธนานุเคราะห์ หัวหน้างานนิติการ สำนักผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวง พม. เป็นคณะทำงานและเลขานุการ อีกทั้ง ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิ กองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวง พม. เป็นคณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ เจ้าหน้าที่กองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวง พม. ที่ได้รับมอบหมาย จำนวน 2 คน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
นายนิกร กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ตั้งคณะทำงานด้านกฎหมายขึ้นมาแล้ว เพื่อเสริมประสิทธิภาพทุกภารกิจของทุกกรม ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. ที่ต้องใช้นักกฎหมายมาร่วมกันระดมความคิดเห็น วางแนวทางการดำเนินการเป็นกรณีๆ อย่างไรก็ตาม ทางประธานคณะทำงานกฎหมายชุดนี้ เตรียมเชิญประชุมหารือเป็นการด่วน เพื่อเสริมประสิทธิภาพ กรณีกรมกิจการเด็กและเยาวชน มอบหมายให้ทีม พม.สุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงและประเมินสภาวะของเด็กชาย 8 ขวบ และครอบครัว แต่เนื่องจากครอบครัวยังไม่พร้อม กรมกิจการเด็กและเยาวชน จึงมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ยื่นคำร้องขอต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี กรณีไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อให้ออกคำสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก ใน 2 ประเด็น คือ 1. ยุติการใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์ 2. ให้ผู้ปกครองร่วมมือในการกำหนดแผนและวิธีการในการเลี้ยงดูเด็กร่วมกับกระทรวง พม. โดยได้ยื่นเรื่องต่อศาลฯ กรณีไต่สวนฉุกเฉินครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ซึ่งศาลฯ ยกคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉิน และให้เป็นการไต่สวนปกติในวันที่ 17 มิถุนายน 2567#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธศิลปอาชา #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #เด็กชายเชื่อมจิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น