ผู้ว่าฯชัชชาติ​ ขานรับธุรกิจ​ Creative Economy พัฒนาเศรษฐกิจและสร้างการเจริญเติบโตของเมือง​

เมื่อวันที่ 22 พ.ย.65 เวลา 15.30 น. : นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมงานเปิดตัวโครงการพัฒนา “โครงการเดอะมอลล์บางกะปิและเดอะมอลล์บางแค” ปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่ยิ่งใหญ่ 2 ย่าน 2 มุมเมือง พร้อมกล่าวแสดงวิสัยทัศน์นโยบายการพัฒนากรุงเทพมหานคร แก่ผู้ประกอบธุรกิจ เจ้าของธุรกิจ ผู้ประกอบการร้านค้า ผู้ประกอบธุรกิจขนาดใหญ่ และ SME ตลอดจนซัพพลายเออร์ เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ความมั่นใจ และเตรียมความพร้อมในการดำเนินธุรกิจที่ตอบรับแนวนโยบายของกรุงเทพมหานคร ในทิศทาง Creative Economy เพื่อยังประโยชน์ในการมีส่วนร่วมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม โดยมี นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด​ ร่วมงาน ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย สยามพารากอน เขตปทุมวัน

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่ากรุงเทพมหานครฟื้นตัวอย่างรวดเร็วภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกมั่นใจในประเทศไทยจากการประชุมเอเปคที่ผ่านมา กรุงเทพฯมี Soft Power ที่มีพลังมหาศาล เดือนที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวกว่า 1.3 ล้านคน​ การลงทุนของภาคเอกชนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างความมั่นใจ ความไว้วางใจให้กับเมือง เนื่องจากเมืองคือตลาดแรงงาน​ เมืองจะอยู่ได้เพราะว่ามีการสร้างงาน​ สร้างอาชีพ​ และมีเศรษฐกิจที่ดี​ ซึ่งผู้ที่สร้างอาชีพเหล่านี้ไม่ใช่กทม.แต่เป็นภาคเอกชน​ บริษัท​ ห้างร้านต่าง​ ๆ ที่มีบทบาทสำคัญ ในการสร้างตลาดแรงงาน คิดเป็น​ 20% ของการจ้างงาน ธุรกิจที่มีคุณภาพจึงมีผลมหาศาลต่อการสร้างเมือง กทม.มีหน้าที่เป็น Partner ที่สำคัญเพื่อให้ธุรกิจและภาคเอกชนเดินไปด้วยกันกับภาคราชการได้อย่างราบรื่นและไม่มีอุปสรรคในการสร้างเมือง​ สร้างงาน​ สร้างเศรษฐกิจ​ เพื่อร่วมสร้างกรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคนไปด้วยกัน

“กทม.พร้อมที่จะร่วมมือกับภาคเอกชนในเรื่องความโปร่งใสในการบริหารราชการ​ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ภาคเอกชนและประชาชนกลับคืนมา ซึ่งเชื่อว่ากรุงเทพฯมีพลังและศักยภาพ จากคนกรุงเทพฯ​ ศิลปะ​ วัฒนธรรม เทคโนโลยี ซึ่งจะสร้างความแข็งแรงให้กรุงเทพฯยืนเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคนี้ในอนาคต​” ผู้ว่าฯชัชชาติกล่าว

กรุงเทพมหานคร มีนโยบายดึงอัตลักษณ์ สร้างเศรษฐกิจ 50 ย่านทั่วกรุงเทพฯ โดยจะส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานด้านกายภาพ (hard infrastructure) เพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของย่าน เช่น การสนับสนุนรวมกลุ่มของผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ ช่วยส่งเสริมการจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้จ่ายให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ อันจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้ผลดี ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและเพิ่มตัวเลือกให้กับผู้บริโภค ซึ่งเป็นแนวนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์) ด้านสร้างสรรค์ดี และเศรษฐกิจดี (ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สนับสนุนศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศในกรงเทพฯ และดึงอัตลักษณ์ สร้างเศรษฐกิจ 50 ย่านทั่วกรุงเทพฯ)

ทั้งนี้​ โครงการ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ” และ “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค” ตั้งอยู่บนยุทธศาสตร์ทำเลที่มีศักยภาพการเติบโตที่สำคัญ เป็นศูนย์การค้าครบวงจร MEGA ALL-IN-ONE RETAIL & ENTERTAINMENT
PROJECT บนพื้นที่ทั้ง 2 ศูนย์การค้ารวมกว่า 700,000 ตารางเมตร (บางกะปิ 350,000 ตารางเมตร, บางแค​ 350,000 ตารางเมตร) ที่จะสร้างปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่ ครบวงจร เพียบพร้อม

และสมบูรณ์แบบ ภายใต้วัตถุประสงค์ที่จะสร้างความโดดเด่น​ ซึ่งเป็นการพัฒนาย่านธุรกิจการค้า ใน 2 ย่าน 2 มุมเมือง โดยบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด มีเจตนารมณ์ในการพัฒนาและดำเนินธุรกิจค้าปลีกควบคู่กับการมีความรับผิดชอบต่อสังคม ภายใต้ปณิธานแห่งความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยมีแนวคิดการมีส่วนร่วมในการพัฒนาย่านธุรกิจการค้าและย่านที่พักอาศัยที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร ซึ่งตอบรับกับแผนการพัฒนาสร้างความเจริญของกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะแผนการสร้างระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ด้วยโครงการปรับโฉมศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขาบางกะปิ และสาขาบางแค เป็นศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ รีเทลมิติใหม่ 2 ย่าน 2 มุมเมือง ที่มีความหนาแน่น เพื่อช่วยสร้างการเจริญเติบโตของธุรกิจทำให้เกิดความเจริญมีการขยายตัวทั้ง 2 มุมเมือง ทั้งกรุงเทพฝั่งตะวันออกและตะวันตก เป็น Gateway of the East & West ซึ่งจะนำมาซึ่งการลงทุนของนักลงทุนไทยและต่างชาติ อันจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวกรุงเทพมหานคร การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวม

#สร้างสรรค์ดี #เศรษฐกิจดี