รองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าวว่า ในช่วงสองปีที่ผ่านมามีเด็กหลุดออกนอกระบบการศึกษาจำนวนมาก ไม่เฉพาะจากเรื่องของสภาพเศรษฐกิจ แต่มีเรื่องของสถานการณ์โควิดด้วย โรงเรียนก็ประสบปัญหาที่ไม่สามารถดึงเด็กทุกคนให้อยู่ในโรงเรียนได้ การลงพื้นที่ในวันนี้มีความสำคัญ เป็นการป้องกันไม่ให้เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา ทุนการศึกษาที่ได้รับอาจไม่มากแต่มีความสำคัญกับชุมชนมาก ได้ให้ทุกเขตเร่งลงพื้นที่สำรวจเด็กที่มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษาให้แล้วเสร็จโดยเร็วตามระยะเวลาที่กำหนดในเดือน ก.ย. นี้ สำหรับเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการศึกษาอย่างเดียวยังบ่งบอกถึงเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคมในอนาคตด้วย ถ้าสามารถปิดหรือหยุดได้ในวันนี้ก็จะทำให้ความเหลื่อมล้ำในสังคมหายไป ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่ยังสามารถนำไปขยายผลดำเนินการในเรื่องอื่นเพิ่มเติมได้
สำหรับนักเรียนยากจนพิเศษ หมายถึง นักเรียนยากจนที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ด้วยวิธีการวัดรายได้ทางอ้อมแบบ Proxy Means Test: PMT โดยดูจากรายได้สมาชิกในครัวเรือนไม่เกิน 3,000 บาทต่อคนต่อปี และสถานะครัวเรือน 8 ด้าน ได้แก่ 1. ครอบครัวมีภาวะพึ่งพิง 2. การอยู่อาศัย 3. ลักษณะที่อยู่อาศัย 4. ที่ดินทำการเกษตรได้ 5. แหล่งน้ำดื่ม 6. แหล่งไฟฟ้า 7. ยานพาหนะ และ 8. ของใช้ในครัวเรือน ซึ่งการลงพื้นที่ชุมชนโรงหวาย เขตสวนหลวง เพื่อคัดกรองและป้องกันเด็กหลุดจากระบบการศึกษาในวันนี้ มี ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) นางสาวปิยะวรรณ จระกา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตสวนหลวง ผู้บริหารสำนักการศึกษา ผู้บริหารเขตสวนหลวง ผู้บริหารโรงเรียนวัดใต้ (ราษฎรนิรมิต) และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่
------------------------------- (พัทธนันท์...สปส. รายงาน) ขอบคุณภาพและข่าวจากเพจprbangkok.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น